ข้อคิดประจำสัปดาห์ วันอาทิตย์ 20 กันยายน 2020
ชีวิตที่สุขสบาย (Pleasant Life)
ศจ.ดร.ประดิษฐ์ เถกิงรังสฤษดิ์
ทุกคนต้องการมีความสุข (Happy) และใช้ชีวิตสบาย (Pleasant) แต่ส่วนใหญ่มักคิดว่า หากมีเงินทองและทุกสิ่งทุกอย่างตามต้องการแล้ว
ก็จะสุขและสบายหายห่วง แต่ในความเป็นจริง แม้จะมีทุกอย่างและได้ทุกสิ่งแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสุขสบายเสมอไป
พระเยซูจึงทรงเตือนใจทุกคนว่า “แม้ท่านจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิต จะได้ประโยชน์อะไร หรือท่านจะเอาอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา” (มัทธิว 16:26) คำเตือนสอนนี้ ทำให้เราเข้าใจและมีมุมองใหม่ที่ว่า ความสุขสบายไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอก แต่มาจากความพึงพอใจในการใช้ชีวิตอย่างพอดีและพอเพียง เพราะเชื่อว่า พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่ง พระองค์ทรงรู้จักเราแต่ละคนเป็นอย่างดี ทรงดูแลเอาใจใส่และไม่ปล่อยให้เราลำบากยากแค้นจนเกินไป แต่ทรงนำพาให้เราผ่านพ้นอุปสรรคขวากหนามต่างๆ ไปได้
พระเยซูจึงสอนให้เราตั้งสติและแสวงหาความช่วยเหลือและเชื่อวางใจพระองค์ ดังพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า ...
อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่า จะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรดื่ม และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่า จะเอาอะไรนุ่งห่ม ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารมิใช่หรือ และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ (มัทธิว 6:25)
มีใครในพวกท่านโดยความกระวนกระวาย อาจต่อชีวิตให้ยาวออกไปอีกสักศอกหนึ่งได้หรือ (มัทธิว 6:27)
เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์ พออยู่แล้ว (มัทธิว 6:34)
ท่านเปาโล จึงขยายความเข้าใจของเราต่อไปอีกว่า...
อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ (ฟีลิปปี 4:6)
หนุนน้ำใจผู้ที่ท้อใจ ชูกำลังคนที่อ่อนกำลัง และมีใจอดเอาเบาสู้ต่อคนทั้งปวง (1 เธสะโลนิกา 5:14)
ด้วยเหตุนี้ คนที่สุขสบายทั้งกายใจ จึงต้องรู้จักควบคุมความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของตน แต่พึงพอใจในทุกสิ่งที่มีและขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี หากเรามีทัศนคติเช่นนี้ อย่างน้อยก็ช่วยให้สบายใจ ยอมรับความเป็นจริงและพร้อมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ
พระเยซูจึงท้าทายให้เราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า (The Kingdom of God) และความชอบธรรม (Righteousness) ของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้ (มัทธิว 6:33) หมายความว่า หากเรายอมมอบชีวิตให้อยู่ในการทรงนำของพระเจ้า เราจะไม่ทุกข์ใจและขัดสน แต่จะได้รับการอวยพรจากพระองค์ ทำให้มีสันติสุขอย่างแท้จริง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าดีหรือร้าย ล้วนเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เราไว้วางใจ พระเจ้าอย่างไม่สงสัย