ข้อคิดประจำสัปดาห์ วันอาทิตย์ 13 กันยายน 2020
การทรงนำของพระเจ้า (God's Guidance)
ศจ.ดร.ประดิษฐ์ เถกิงรังสฤษดิ์
ชาวคริสต์เชื่อว่า พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้าง ทรงมอบหมายให้เราเป็นผู้ดูแลสิ่งทรงสร้างให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข
ยิ่งกว่านั้น พระเจ้าทรงสร้างเราตามพระฉายาของพระองค์ มีเกียรติและฐานะที่สูงส่ง ด้วยเหตุนี้ เราจึงเป็นสิ่งทรงสร้างที่ประเสริฐที่สุด ทรงนำและทรงปกปักรักษาให้เราก้าวเดินไปอย่างมั่นคง
แต่ก็มักมีคำถามตามมาว่า พระเจ้าทรงนำและดูแลอารักขาเราอย่างไร หากพระองค์ทรงรักเราจริง เหตุใดจึงมีความทุกข์และเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นในโลกและในชีวิตของเราไม่เว้นแต่ละวัน
ประสบการณ์ของโมเสส เป็นประจักษ์พยานว่า พระเจ้าทรงเป็น “พระศิลา” (The Rock) และเป็น “พระบิดา” (Father) ของเราทั้งหลาย (เฉลยธรรมบัญญัติ 32 : 4 และ 6)
•พระศิลา เป็นรากฐานและเป็นที่มั่นของชีวิต เป็นที่พึ่งพิงในยามยาก หากวางฐานชีวิตบนศิลาแห่งความรอดของพระองค์ เราจะไม่หวั่นไหวและไม่กลัว แต่จะยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง แม้ต้องพบกับอุปสรรคปัญหาและความยุ่งยากของชีวิตก็ตาม
•พระบิดา เป็นต้นแบบของความรักเมตตาและการดูแลเอาใจใส่ของพระเจ้า ทำให้เราอยู่รอดปลอดภัยในทุกสถานการณ์ของชีวิต เป็นลักษณะของพ่อแม่ที่รักผูกพันต่อลูกหลานของตน มุ่งมาดปรารถนาดีและมุ่งหวังให้ลูกหลานเจริญงอกงาม พ่อแม่จะไม่ยอมทอดทิ้งให้ลูกหลานเผชิญชะตากรรมอย่างโดดเดี่ยว แต่จะอยู่เคียงข้าง ยื่นมือช่วยเหลือและเป็นกำลังใจเสมอ
ในบั้นปลายชีวิตของโมเสส (เฉลยธรรมบัญญัติ 32 : 10 - 11) ท่านรื้อฟื้นความทรงจำถึงความรักเมตตาของพระเจ้าที่ทรงมีต่อประชากรของพระองค์ว่า พระองค์จะทรงนำและอารักขาลูกหลานของพระองค์ ดังนี้
•ทรงโอบล้อม (Surrounded) หรือปกป้อง (Shielded) ให้รอดพ้นจากการโจมตีของศัตรู
•ทรงเอาใจใส่ดูแล (Cared for) ไม่ทอดทิ้งให้เดือดร้อนลำบากอย่างเดียวดาย
•ทรงเป็นเวรยามรักษาการ (Guarded) ดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์ (Apple of his eyes) เราจึงมีค่ายิ่งประดุจแก้วตาดวงใจของพระเจ้า
•ทรงปกป้องเราเหมือนแม่นกอินทรีกระพือปีกเหนือลูกของมัน (Hovers over) และกางปีกรองรับลูกให้เกาะบนปีกอย่างปลอดภัย ไม่ให้พลัดตกลงไปข้างล่าง (Spread its wings)
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงต้องสำนึกในพระเมตตาคุณของพระเจ้าและขอบพระคุณพระองค์ในทุกกรณี ให้เราโมทนาและสรรเสริญด้วยความยินดี เพราะพระเจ้าประเสริฐและความรักมั่นคงของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หากเราตระหนักเช่นนี้ เราจะมอบกายถวายชีวิตให้อยู่ในการทรงนำของพระองค์และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ผู้เขียนสดุดีจึงเชิญชวนว่า “จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์” (สดุดี 103 : 2)