ข้อคิดประจำสัปดาห์ วันอาทิตย์ 15 พฤศจิกายน 2020
น้ำหนึ่งใจเดียวกัน (Unity)
ศจ.ดร.ประดิษฐ์ เถกิงรังสฤษดิ์
สังคมทุกวันนี้นับวันจะมีความขัดแย้งแตกแยกรุนแรงมากขึ้น มีความเห็นต่าง และช่องว่างระหว่างวัยอย่างชัดเจน ผู้คนมีความอดทนอดกลั้นน้อยลง
จึงเกิดการกระทบกระทั่งทั้งทางวาจาและการกระทำในรูปแบบต่างๆ ทำให้ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ราบรื่น
จึงไม่แปลกใจที่ นายโจ ไบเดน กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกหลังทราบผลการเลือกตั้ง โดยเรียกร้องให้ประชาชนชาวอมริกันทุกคน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และสีผิว หันหน้าเข้าหากันและคงความเป็นเอกภาพ หรือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้
สดุดีบทที่ 133 ยืนยันว่า การที่พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างเป็นเอกภาพแบบพี่แบบน้อง นับเป็นการดี (Good) และน่าชื่นใจ Pleasant) ยิ่งนัก เพราะทุกคนจะได้รับพระพรจากพระเจ้าอย่างอุดม นั่นคือ มีอายุมั่นขวัญยืน หรือมีชีวิตยืนยาวเป็นนิตย์ (Life forevermore)
ท่านเปาโลจึงขอร้องให้ทุกคนคงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีสันติสุข ดังนี้
ขอให้อยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน กล่าวคือ จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าใฝ่สูง แต่จงถ่อมใจลงยอมทำการต่ำ อย่าถือว่าตัวฉลาด อย่าทำชั่วตอบแทนชั่วแก่ผู้หนึ่งผู้ใดเลย แต่จงมุ่งกระทำสิ่งที่ใครๆ ก็เห็นว่าดี ถ้าเป็นได้ คือเรื่องที่ขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน (โรม 12:16-18)
ขอให้ปรองดอง หรือคืนดีกัน กล่าวคือ อย่าถือพวกถือคณะ แต่ขอให้ท่านเป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกัน (1 โครินธ์ 1:10)
ขอให้มีสันติภาพเป็นเป้าหมาย กล่าวคือ มีความเพียรพยายามคงความเป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้น ด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ (เอเฟซัส 4:3)
ท่านเปโตรเสนอแนะเพิ่มเติมว่า การคงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นอกจาก หันหน้าเข้าหากันและรับฟังความคิดเห็นต่างแล้ว ยังต้องปฏิสัมพันธ์ด้วยใจมากกว่าใช้อารมณ์และความรู้สึก กล่าวคือ ต้องเห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉันพี่น้อง มีจิตใจอ่อนโยนและอ่อนน้อมถ่อมตนด้วย (1 เปโตร 3:8) หากทุกคนปรับทัศนคติเช่นนี้แล้ว เราจะยอมรับและให้เกียรติแก่กัน ทำให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข..<<<